เคล็ดลับการถนอมดวงตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์อย่างง่ายๆ ครับ
เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่าเดี๋ยวนี้ คนที่มีอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆเลยนะ เพราะปัจจุบันนะมีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายในสำนักงานต่างๆ ตามบ้าน ตามร้านเน็ต จากสถิติพบว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการทางสายตา ได้แก่ ปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศีรษะ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเมื่อยคอและหลัง โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่พี่ผึ้งว่าเพื่อความไม่ประมาท เราเริ่มดูแลดวงตาเราตั้งแต่ตอนนี้เลยจะดีกว่านะ ไม่งั้นแก่ไปได้ใส่แว่นตาหนาเตอะแน่ งานนี้จะขำไม่ออกกัน +_+!
ทั้งนี้ตัวแปรที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวมีหลายอย่างเลย เช่น ภาวะตาแห้ง ความผิดปกติของสายตาและค่าสายตา ความสามารถในการเพ่ง แว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ชนิดของคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่งขณะใช้คอมพิวเตอร์ เรียกว่าสารพัดปัจจัยเสี่ยง
หยกเลยมีเคล็ดลับถนอมสายตามาฝากกัน สำหรับน้องๆ ที่เป็นโรคติดเน็ต ขาดคอมเป็นขาดใจทั้งหลาย ได้รู้ถึงวิธีดูแลดวงตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์อย่างง่ายๆกัน
. ควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้น
· จัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยระยะห่างระหว่างจอภาพและผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ควรอยู่ระหว่าง 20-28 นิ้ว ระดับจอภาพ จุดศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรอยู่สูงหรือต่ำเกินไป ควรอยู่ตรงด้านหน้าของผู้ใช้
· ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา
· แว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ควรเลือกใช้เลนส์สีชมพูอ่อนที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ
· ใช้แผ่น ลดแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ หรือ เลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอมสายตาได้ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเก่า (CRT)
· ควรหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน รวมทั้งใช้ฉากกั้นเพื่อลดปริมาณแสง
· ควรจัดวางคีย์บอรด์และเม้าส์ต่ำกว่าระดับข้อศอก พร้อมปรับความสูงของเก้าอี้ให้เหมาะสม มุมตรงเข่ากับเก้าอี้ควรมากกว่า 90 องศา เก้าอี้ที่ดีควรมีที่พักแขน
· ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง เพื่อพักสายตา และป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อย เมื่อต้องใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
· ควรตรวจสายตาปีละหนึ่งครั้ง เพื่อวัดความดันตา ดูประสาทตา และตรวจเช็คความผิดปกติของสายตาเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสียสายตาได้
วิธีการพักสายตา จากการใช้คอมพิวเตอร์คนเราส่วนใหญ่จะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มาก ๆ มีบางครั้งล้าสายตาหรือปวดตา ทำ
ให้เกิดการระคายเคือง ตาอักเสบ วิธีการช่วยบรรเทาการปวดตา
1. หลับตา แล้วเกือกตาไปมา ซ้าย ขวา บน ล่าง และหลับให้หนึ่งประมาณ 5 นาที
2. ออกไปสูดอากาศหายใจจะได้ผ่อนคลายไปในตัว
3. มองดูอะไรก็ได้ที่เป็นสีเขียว เช่น ต้นไม้ สนามหญ้า ฯลฯ หรืออะไรก็ได้ ที่มองแล้วสบายหูสบาย
ตา วิธีนี้ส่วนมากใช้ได้ผล 70%
4. หาอุปกรณ์ เช่น แว่น ฯลฯ
เมื่อเทคโนโลยีมันก้าวมาถึงขีดที่คอมพิวเตอร์ ซึ่งเคย แสนวิเศษ กำลังจะกลายเป็นอุปกรณ์
ธรรมดาๆ ที่จำเป็นต้องมีของทุกหน่วยงาน ทุกคนต้องใช้ได้ใช้เป็น และเรากำลังหลงใหลได้ปลื้ม
กับความสามารถ ของคอมพิวเตอร์ จนลืมนึกถึงพิษภัยที่มันมากับคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ใช่ทางตรง
ทีเดียวกันก็ตาม พิษภัยนี้ มีไว้สำหรับท่านที่นั่งใช้อยู่หน้าจอเป็นประจำเท่านั้น โดยเฉพาะท่านที่
ต้องนั่งอยู่หน้าจอเกิน 6 ชั่วโมงต่อวัน จากการนั่งทำงานเป็นประจำ ผลกระทบต่อสุขภาพเบื้องต้น
ที่แน่ๆ ก็คือ ปวดหลัง ปวดไหล่ ต้นคอ และข้อมือ เกิดอาการเครียดที่ตา เพราะขณะมองจอนั้นผู้ใช้
มักไม่กะพริบตา เป็นผลให้ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกิดอาการระคายเคืองได้ และอาการที่ตามมาคือตา
พร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว นอกจากนี้ยังอาจมีอาการไมเกรนพ่วงมาด้วยปัญหาทางตาเป็นปัญหา
ที่น่าห่วงมาก เพราะเมื่อตาเกิดความเครียดกล้ามเนื้อตา จะบีบรัดเลนซ์ตาจนเกิดความเมื่อยล้า
หมอจึงแนะนำว่า ถ้าต้องใช้สายตาอยู่กับจอนานๆ ควรพักสายตาทุกสิบนาทีด้วยการเปลี่ยนไปมอง
วัตถุที่อยู่ไกลออกไปสัก 20 ฟุต มองสัก 2-3 นาทีแล้วค่อยมองจอต่อ จักษุแพทย์ได้แนะให้ผู้ใช้
คอมพิวเตอร์นานๆ ต้องพักสายตาให้มองไกลทุก 10 นาที และท่านที่มีปัญหาสายตาสวมแว่นอยู่
แล้วนั้น ถ้าต้องมารับหน้า ที่อยู่หน้าจอนานๆ ควรมีแว่นตาเฉพาะสำหรับงานหน้าจอนี้ด้วยอีก
อันหนึ่ง ซึ่งแตกต่างไปจากแว่นตาที่ใช้ยามปกติ ส่วนจะแตกต่างอย่างไร คงต้องปรึกษาจักษุแพทย์
และในขณะเดียวกันท่านเหล่านี้ ควรได้รับ การตรวจวัดสายตาเป็นประจำ เพื่อให้ได้ขนาดเลนซ์ที่
เหมาะสม
นอกจากนี้เพื่อเป็นการถนอมสายตาที่ยังไม่มีปัญหา ท่านไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีสว่างขณะ
นั่งหน้าจอ เพราะสีของเสื้อจะไปทำให้เกิดแสงสะท้อนบนจอภาพได้และแสงสะท้อนนี้แหละที่จะ
ทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า กว่าปกติและยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตาเมื่อยล้าได้คือ ถ้าแสงจากจอ
สว่างน้อยกว่าแสงโดยรอบ ข้อนี้ผู้จัดสำนักงานควรจะมีความรู้ด้วย ทั้งหมดคงต้องเป็นหน้าที่ของ
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เอง ที่จะเป็นผู้รับผิดชอบสุขภาพของตนเอง เพราะถ้าเกิดปัญหาสายตาขึ้น จะไป
เรียกร้องเงินทดแทนก็คงทำได้ยาก
ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้ นะจ๊ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น