สาวมั่นอย่างเราแม้จะสามารถเดินทางไปไหนๆ ได้อย่างไม่หวั่น แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมก็คือ การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยยามเดินทาง เพราะยุคสมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้ค่ะ ต้องดูแลตัวเองกันให้ดีหากเกิดอะไรขึ้นมาไม่คุ้มแน่ๆ ค่ะ
1. เดินด้วยท่าทีที่มั่นใจ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะรู้ว่าคุณเป็นคนแปลกถิ่น ทำให้เป็นเป้าสายตากับผู้ไม่หวังดีได้ง่าย
2. แต่งกายให้เหมาะสม ควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับโอกาสและสถานที่ที่ไป ไม่เปิดหรือโป๊จนเกินไปและไม่ควรใส่ของมีค่ามากนัก อันตรายค่ะ
3. พยายามอยู่ในกลุ่มเพื่อน ไปหลายคนจะได้ช่วยเหลือกันได้ยามคับขัน
4. อย่ารับของจากคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นการฝากเพียงชั่วคราวก็ตาม เพราะเป็นของผิดกฎหมายและทำให้คุณเดือนร้อนได้ หากอยู่ในงานปาร์ตี้ ไม่ควรรับแก้วจากคนแปลกหน้าหรือวางแก้วทิ้งไว้บนโต๊ะ
5. ควรแยกเก็บเงินและของมีค่าไว้หลายๆ ที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญหาย และให้กระเป๋าสะพายอยู่ในสายตาหรือติดตัวไว้ตลอดเวลา
6. ถ้ามีใครมาชน ถามทาง ถามเวลา หรือทำอะไรหกใส่คุณ ให้ระวังตัวไว้เพราะนั่นอาจเป็นเล่ห์เหลี่ยมของพวกมิจฉาชีพ
7. เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละที่ที่คุณไป เพราะวัฒนธรรมแต่ละที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะภาษาท่าทางซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้
8. หากรู้สึกแปลกๆ หรือไม่ชอบมาพากล ให้รีบออกมาจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้
อุปกรณ์ในการป้องกันตัว และสามารถพกพาได้
แบบที่ 1 อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ (Personal Alarm)
ไว้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่พกติดตัว เวลามีเหตุฉุกเฉินเราก็ดึงสลัก อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือจะส่งเสียงดัง เพื่อเรียกคนที่อยู่รอบให้หันมาสนใจ และช่วยเหลือเรา
โดยอุปกรณ์จะไม่ทำอันตรายคนร้าย แต่จะสร้างความตื่นตระหนก ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กลับสถานที่ด้วยนะครับ ถ้าที่นั้นเป็นที่เปลี่ยวจริง อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีใครได้ยิน
แบบที่ 2 สเปรย์พริกไทย (Pepper Spray)
สเปรย์พริกไทย จะดีกว่าอาวุธป้องกัน ประเภท อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ คือเราสามารถสู้คนร้ายได้ด้วย โดยระยะหวังผลก็จะอยู่ที่ 1-2 เมตร ผลที่เกิดกับคนร้ายคือจะแสบหน้า แสบตา ซึ่งจะสามารถหยุดคนร้ายได้ประมาณ 20 นาที ซึ่งเพียงพอในการหลบหนี
แบบที่ 3 มีด มีดปากกา อาวุธมีคม
ตัวอย่างที่เอามาเป็นมีดปากกา ใช้งานเป็นปากกาได้ เวลาฉุกเฉินก็สามารถเอามใช้ป้องกันตัวได้ แต่โดยส่วนตัวไม่แนะนำให้ใช้ เพราะว่า เป็นการยากที่ผู้หญิงจะใช้มีด ในการป้องกันตัว แบบประชิดเช่นนี้
แบบที่ 4 เครื่องช๊อตไฟฟ้า
เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว ชนิดที่ใช้กระแสไฟฟ้าทำร้าย โดยจี้ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไฟฟ้าก็จะวิ่งผ่านกล้ามเนื้อส่วนนั้น ซึ่งก็ไม่ได้หยุดคนร้ายได้เท่าไรนัก เพราะจะทำร้ายกล้ามเนื้อบางส่วนเท่านั้น กล้ามเนื้อส่วนอื่นแขนขาก็ยังใช้งานได้
เนื้อหาในรายการโดย พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ
รอง ผกก.5บก.ส1
ผู้เชี่ยวชาญการป้องกันตัว และกฎหมาย แห่ง“ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง” www.PaiPhuying.com
อุปกรณ์ป้องกันตัว การที่จะถูกกฎหมายหรือไม่ ขั้นแรก ต้องดูที่ลักษณะทางกายภาพ หากทางกายภาพ ดูเป็นอาวุธแล้ว ก็ผิดกฎหมาย เช่น มีด เครื่องช๊อตไฟฟ้า เป็นต้น เพราะเป็นอาวุธโดยสภาพ ทางกายภาพของมันเอง ถ้านำไปพกพาในที่สาธาณะ ถูกจับนะครับ เพราะฉะนั้น ไม่แนะนำให้ใช้
ส่วนอุปกรณ์ป้องกันตัวบางอย่าง ทางกายภาพแล้ว ไม่เป็นอาวุธ เราสามารถพกพาได้เพราะไม่ผิดกฎหมาย เช่น สเปรย์พริกไทย และ เครื่องส่งสัญญาณเตือนภัย (Personal Alarm) เป็นต้น
แต่ สเปรย์พริกไทย จริงๆ แล้วมีหลายแบบ ทั้งนี้ ขึ้นกับสารที่บรรจุอยู่ภายใน ทั้งนี้ต้องสอบถามจากผู้ขาย สเปรย์พริกไทย ให้แสดงหลักฐานว่า ผ่านการอนุญาติตาม พรบ. วัตถุอันตรายและ พรบ. ควบคุมยุทธภัณฑ์ หรือไม่ หากผ่าน 2 ตัวนี้ก็ไม่มีปัญหา พกพาติดตัว เพื่อการป้องกันตัวได้
ในส่วนของหนังสือ “ภัยผู้หญิง” และ .”ภัยผู้หญิง2” ข้างในจะเป็นวิธีป้องกันตัว ในหลายรูปแบบ โดยท่านรองโชติวิเชียร ได้ยกตัวอย่างภัยที่เคยเกิดขึ้นมา อธิบายถึงการป้องกันตัว และวิธีแก้ไขสถานะการณ์ จากภัยนั้นๆ
อยากป้องกันตัว แต่หาซื้อยาก ลองเข้าไปดูที่ www.siam-minimart.com ดูครับ มีทั้งสเปรย์พริกไทย และเครื่องช๊อตไฟฟ้า
ตอบลบราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด พกไว้แล้วอุ่นใจ ถึงแม้อาจจะไม่ได้ใช้งานเลยก็ตาม
ยังดีกว่า พอจะใช้แล้วไม่มี จิงมั้ยครับ
ลองชมกันได้นะ www.siam-minimart.com