---------------------------------------------- ---------------------------------------------- woman_only: กุมภาพันธ์ 2010

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยีสารสนเทศ

1.ข้อดีของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศมีเป้าหมายกำหนดไว้ดังนี้

1.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Operation Efficiency)
2.เพิ่มผลผลิต (Function Effectiveness)
3.เพิ่มคุณภาพบริการลูกค้า (Quality Customer Service)
4.ผลิตสินค้าใหม่และขยายผลผลิต (Product Creation and Enhancement)
5.สามารถสร้างทางเลือกเพื่อแข่งขันได้ (Altering the basic of competition)
6.สร้างโอกาสทางธุรกิจ (Identifying and Exploiting Business Opportunities)
7.ดึงดูดลูกค้าและป้องกันคู่แข่ง (Client Lock-In/Competitor Lock-Out)
จากเป้าหมายทั้ง7ประการของเทคโนโลยีสารสนเทศถ้าสามารถดำเนินการได้ตามเป้หมายดังกล่าวก็ถือได้ว่าเป็นข้อดีของเทคโนโลยีสารสนเทศระบบนี้ได้ทั้งหมด

2.ข้อเสียของเทคโนโลยีสารสนเทศ

1.วงจรชีวิตของระบบสารสนเทศ เป็นระบบที่มีวงจรชีวิตค่อนข้างจำกัด อาจจะอธิบายได้ว่า เนื่องจาการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งสภาพทางเศรษฐกิจและธุรกิจ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบสารสนเทศไปด้วยหรือ การเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริหาร ก็อาจจะต้องเปลี่ยนระบบสารสนเทศไปด้วย
2.ลงทุนสูง เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่มีราคาแพง และส่วนมากไม่อาจจะนำไปใช้ได้ทันที แต่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเสียก่อนจึงจะใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
3.ก่อให้เกิดช่องว่าง (Gap) เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดช่องว่างในการรับข่าวสารระหว่างคนจนกับคนรวย
3.ผลกระของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อสังคมมนุษย์

1.การเปลี่ยนแปลงเรื่องความรู้สึกตลอดเวลา มีคนจำนวนไม่น้อยเกิดความรู้สึกว่าสรรพสิ่งเคลื่อนไหวเร็วขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศทีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าด้านโทรคมนาคม ทำให้ระบบเศรษฐกิจเป็นจริงขึ้นมา พรมแดนของประเทศกลายเป็นสิ่งไร้ความหมายการบริการด้านการเงินได้รับแรงเสริมทางด้านอิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารโดยเฉพาะในสำนักงานทำให้วิธีคิดและวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักงานตลอดเวลาอีกแล้ว
2.ผลกระทบด้านการเมืองและการตัดสินใจ เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ละเอียดและปราณีตมากขึ้น ทำให้การตัดสินใจไม่เป็นไปตามค่านิยมแต่จะเป็นการตัดสินใจบนข้อมูลและข้อเท็จจริงพร้อมทั้งความคิดเห็นที่มีการเก็บรวบรวมและมีวิธีการวิเคราะห์ประกอบด้วย ส่วนรูปแบบการเมือง จะได้รับผลกระทบคือ ระบบเผด็จการจะลดน้อยลง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมข่าวสารได้ ระบบการสื่อสารที่กระจายอำนาจทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้นสามารถติดตามการทำงานของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.การเกิดขึ้นของชุมชนอิเล็กทรอนิกส์ ในอนาคตจะเกิดชุมชนใหม่ที่เรียกว่า “ชุมชนอิเล็กทรอนิกส์” ที่ปรากฏขึ้นเมื่อทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ และกลุ่มที่มีความสนใจเหมือนกันจะติดต่อโดยผ่านบริการของสหกรณ์โทรคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถจัดการให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ซึ่งกันและกันได้ และข้อมูลที่นำมาแลกเปลี่ยนกันนี้จะถูกบันทึกไว้และจะเรียกกลับมาใช้อีกเมื่อไหร่ก็ได้
4.ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แม้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศจะไม่ได้เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยตรง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าในเทคโนโลยีต่างๆ และเทคโนโลยีเหล่านั้นเองที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้ โดยการใช้คอมพิวเตอร์ในการคำนวณหรือจำลองแบบมวลอากาศเพื่อพยากรณ์ทางด้านอุตุนิยมวิทยา การใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อตรวจสอบการบุกรุกทำลายป่าา หรือการใช้คอมพิวเตอร์ตรวจสอบการแพร่มลพิษในน้ำหรือในอากาศ
5.ผลกระทบด้านการศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลกระทบในด้านการศึกษามาก การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญ คือ การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction-CAI) หรือ เรียกว่า คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียน (Computer Assisted Learning-CAL) ซึ่งหมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอนและการเรียนรู้ โดยมีผลทำให้นักเรียน นักศึกษา หรือประชาชนที่อยู่ในที่ห่างไกลสามารถเรียนรู้ได้เช่นเดียวกับคนเมือง นอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้อาจารย์มีเวลามากขึ้นที่จะทำการศึกษาวิจัย นำเสนอผลงานใหม่อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
6.ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อปัจเจกบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเลือกซื้อของ การพักผ่อน การฝาก-ถอนเงิน การรักษาพยาบาล เป็นต้น ซึ่งผลกระทบต่อบุคคลที่สำคัญดังนี้
ผลกระทบที่มีผลต่อสภาวะจิตใจ การที่สภาพแวดล้อมทีการกระตุ้นมากเกินไป ข่าวสารข้อมูลมีมากเกินไป ทางเลือกต่างๆ มีมาก ทำให้เกิดการตัดสินใจของมนุษย์ด้อยประสิทธิภาพลงเมื่ออยู่ในภาวะที่ถูกกระตุ้นมากไป
การย้อนกลับไปสู่ศาสตร์ลี้ลับ เนื่องมาจากการสูญเสียอำนาจควบคุมพลังและศาสตร์ต่างๆ ก้าวไปไกลเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุม มนุษย์จึงเลิกสนใจวิทยาศาสตร์แต่หันมาสนใจศาสตร์ลี้ลับต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
6.ความเป็นส่วนตัวลดลง ทั้งนี้เนื่องจากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นส่วนตัวทุกอย่างของมนุษย์ได้
ผลกระทบต่อวิธีคิดมนุษย์ มนุษย์จะสามารถเก็บข้อมูลมากที่สุดในเวลาอันสั้นแล้วทิ้งไป แต่จะนำเอาข้อมูลเพียงเล็กน้อยมาสรุปรวมกันเป็นทัศนะใหม่ จะไม่รับแนวคิดที่ส่งผ่านมาทั้งกระบวนอีกต่อไป

คุยกันเรื่องความง้ามงาม นะค่ะ

เพื่อนผึ้ง (เจ้าของบทความ)


การจัดฟัน
การจัดฟันสามารถทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
การจัดฟันในวัยเด็กจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นช่วงที่ส่วนต่างๆ ของโครงสร้างใบหน้ากำลังเจริญเติบโตมีส่วนช่วยในการเคลื่อนที่ของฟันให้เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว สำหรับผู้ใหญ่ต้องใช้เวลาในการจัดฟันนานกว่าเด็กมาก การจัดฟันไม่จำเป็นต้องถอนฟัน ขึ้นกับว่ามีฟันซ้อนเกมากน้อยเพียงใด มีเนื้อที่ในขากรรไกรเพียงพอ สำหรับการจัดเรียงฟันให้เป็นระเบียบได้หรือไม่ หากมีฟันซ้อนเกมาก
ประกอบกับขากรรไกรมีเนื้อที่ไม่พอก็ต้องถอนฟันออก ซึ่งโดยทั่วไปจะพิจารณาถอนฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่งด้านละ 1 ซี่ เนื่องจากเป็นฟันที่อยู่กึ่งกลางความโค้งของขากรรไกร ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากการซ้อนเกของฟันด้านหน้า และฟันด้านหลัง การเคลื่อนฟันเข้ามาปิดช่องว่างได้ดีกว่าการถอนฟันซี่อื่น ๆ
ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟัน
จะแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่าง คือ ลักษณะการสบของฟัน และเนื้อที่ขากรรไกรว่ามากน้อยเพียงใด การจัดฟันในผู้ใหญ่จะใช้เวลามากกว่าในเด็ก การจัดฟันจึงใช้เวลานาน โดยเฉลี่ยประมาณ
2-3 ปี จึงแล้วเสร็จ การจัดฟันให้ได้ผลดีนั้น ความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ข้อดี
1.จัดรูปหน้า สวยยยยย ย ย ทันที (สวยในที่นี้คือ รูปหน้าดูสมส่วนจ้ะ)
(เเล้วเเต่พฤติกรรมของคนจัดด้วยนะคะเพราะถ้าไม่รักษาดีๆก็ไม่มีผลจ้ะ)
2.ฟันสวย เรียงกันเป็นระเบียบ
3. จัดเเล้วดูเเอ๊บเเบ๊ว น่ารัก
4.ดูมีจุดเด่นให้คนอื่นจำขึ้นมาอีก1จุด๕๕+ นั่นคือฟันของเราเอง
5.เป็นเเฟชั่นที่ทำเเล้วดูไม่น่าเกลียด
ข้อเสีย
1.ต้องจุกจิกจู้จี้ กับการทำความสะอาดเหล็ก
2.ต้องไปเพิ่มขนาดลวดเเละเปลี่ยนสีทุกเดือนอาจจะเป็นความลำบากในการเดินทาง
3.เพิ่มขนาดลวดเเล้วจะรู้สึกตึงๆปวดๆ บางคนก็อาจจะกินข้าว ไม่ได้ สำหรับเรา กินทุกอย่างหล่ะคะ
5. อาหารติดเหล็กบ่อย เวลาคนอื่นมองจะไม่น่าดู

5.ต้องพกกระจกตลอดดูว่ามีอะไรติดมั้ย (สำหรับผู้หญิง)
6.ฟันจะผุบ่อยถ้าไม่ดูเเล
7.เสียเเวลาการจัดอย่างน้อย2 ปี (เเล้วเเต่กรณีเเต่ส่วนใหญ่จะจัด2ปี)
8.ค่าจัดค่อนข้างจะเเพง ถ้าการจัดเเบบมีคุณภาพ
9.ปากเจ่อ (บางคนอาจจะไม่เจ่ออะ) เจ่อมากเจ่อน้อยเเล้วเเต่รูปปากของเเต่ละคนด้วยน้า อย่าเครียด
10.ฟันจะน้อยกว่าคนอื่น บางคนโดนถอนไปเยอะเลย อิอิ
ถึงเเม้ข้อเสียจะเยอะเเต่ถ้าหากเรามีความจำเป็นจะต้องจัด ก็จัดไปเถอะจ้ะ รับรองถอดเครื่องมือเเล้ว คุ้มค่ากับที่จัดไปเเน่ๆ ^ ^ ''
เพื่อนกิ๊ก (เจ้าของบทความ)







ขั้นตอนในการใส่คอนแทคเลนส์ ของกิ๊กนะ
1. ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
2. นำเลนส์ที่ล้างทำความสะอาดแล้ว วางบนนิ้วชี้ข้างที่ถนัด แน่ใจว่าถูกด้าน
3. ใช้นิ้วกลางมือข้างที่ถือเลนส์ดึงเปลือกตาล่างลง
4. แล้วใช้นิ้วกลางมืออีกข้างหนึ่งดึงเปลือกตาบนขึ้น
5. วางเลนส์กลางตาดำ
6. เหลือบมองด้านล่าง แล้วปล่อยเปลือกตาล่างก่อน
7. หลับตาใช้นิ้วกดบนเปลือกตาเบา ๆ
ขั้นตอนการถอดคอนแทคเลนส์ คือ
1. ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
2. เหลือบขึ้นบน ใช้นิ้วกลางดึงเปลือกตาล่างลง
3. เลื่อนเลนส์ลงมาด้านล่าง
4. ค่อย ๆ หยิบเลนส์โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ 5. ถอดเลนส์ออก ล้างทำความสะอาด
สิ่งสำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้มากๆ (ย้ำขาดไม่ได้) คือ ความสะอาดและการดูแลรักษาทำความสะอาดเลนส์และตลับเลนส์ ทุกครั้งเพราะดวงตาของพวหเราต้องใช้อีกนานหลายปี
ข้อดี
1.ไม่ต้องใสแวนตาเหมือนคนแก่
2.สะดวกต่อการทำกิจกรรม
ข้อเสีย
ไม่ควรทดลองใส่คอนแทคเลนส์ตามแฟชั่น ที่มีข่าวออกมาใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและติดเชื้อจนตาบอด แนะปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนการเลือกสวมใส่คอนแทคเลนส์ทุกชนิดต้อง แยกน้ำยาทำความสะอาดตามขั้นตอนให้ผลดีกว่าใช้น้ำยาประเภท “3 อิน 1” และห้ามใส่คอนแทคเลนส์นอนหลับอย่างเด็ดขาด เสี่ยงติดเชื้อเสียดวงตา
ข้อแนะนำ
1.ห้ามล้างเลนส์ด้วยน้ำประปาเด็ดขาด ให้ใช้น้ำยา หรือน้ำเกลือที่ปลอดเชื้อ
2.ควรจะเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์แบบแยกขั้นตอน
3.เวลาล้างเลนส์ ให้ใช้นิ้วถูเลนส์ทั้งสองด้านให้สะอาด ไม่ควรถูเลนส์
4.เวลาใส่หรือถอดเลนส์ ให้ระวังเล็บขูดขีดกระจกตา ถ้าไว้เล็บสั้นได้ก็จะดีค่ะ
5.ล้างตลับเลนส์ให้สะอาด แล้วตากตลับโดยคว่ำไว้บนตะแกรงโปร่งๆ ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ตลับเลนส์จะได้ไม่ติดเชื้อรา
6.พยายาม รักษาความสะอาด เวลาทำความสะอาดเลนส์ให้ดีๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องตาติดเชื้อ เป็นอันตรายต่อดวงตาได้ค่ะ
7. เมื่อเปิดฝาน้ำยาคอนแทคเลนส์ และน้ำตาเทียม (ที่ใช้หยอดตา) แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน และถ้าเกิน 3 เดือนแล้วให้ทิ้งน้ำยาขวดนั้นไปเลย อย่าเสียดาย เพราะน้ำยาที่เปิดฝาใช้แล้วจะมีโอกาสติดเชื้อต่างๆ ได้ ซึ่งก็จะทำให้ตาเราติดเชื้อไปด้วย
8. ถ้าใช้น้ำเกลือขวดใหญ่ๆ แบบที่ขายกันทั่วไป ควรจะใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ถ้าเกินจากนี้ก็ควรจะทิ้งน้ำเกลือขวดนั้นไป เนื่องจากน้ำเกลือที่เปิดแล้วก็จะไม่ได้อยู่ในสภาพปลอดเชื้ออีกต่อไป
9.ห้ามใส่เลนส์เวลานอน ไม่ว่าจะง่วงขนาดไหน ก็ควรจะถอดเลนส์ก่อนแล้วค่อยหลับ ก่อนนะจ๊ะ

เพื่อนจิ๊บ (เจ้าของความ)







สวนใหญ่ชาวเกาหลีเป็นผู้นำเทรนด์เรื่องการฉีดโบทูลินั่มมาก เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็กจิ้มลิ้ม แบบตุ๊กตาบาร์บี้ โดยโบทูลินั่มเป็นโปรตีนสกัด ที่มีคุณสมบัติช่วยคลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณแนวสันกราม และ แนวขากรรไกร จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และลดเหลี่ยมมุมของใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง โดยไม่ต้องศัลยกรรมเหลาคางให้เจ็บตัว เดิมทีเดียวมีการใช้โบทูลินั่ม หรือโบท็อกซ์ในการแพทย์ทั่วโลกมานานแล้ว แต่เพิ่งจะดัดแปลงมาใช้เพื่อปรับรูปหน้าครั้งแรก โดยแพทย์ ชาวเกาหลี เมื่อปี 1994 และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่ววงการบันเทิงแดนกิมจิ แม้แต่ดาราและไฮโซเมืองไทยยังบินไปจิ้มโบท็อกซ์ ปีละหลายหน จนสวยปิ๊งขึ้นผิดหู ผิดตา.
ข้อดี ข้อดี
สามารถทำได้ทันที และใช้เวลาในการรักษาไม่เกิน 10 นาที ไม่ต้องรอพักฟื้น เริ่มเห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์ อย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 2-3 เดือน
ผลที่ได้รับหลังการักษา
สามารถอยู่ได้นาน 8 เดือน-1ปีค่ะ

เพื่อนเฟิร์น(เจ้าของบทความ)








การดูดที่มีไขมันสะสมเยอะ โดยเฉพาะส่วนที่ลดยากๆอย่าง หน้าท้อง, ต้นขา และสะโพก ค่อนข้างได้ผลน่าพึงพอใจ เทคนิคนี้จะลดไขมันโดยอาศัยอัลตราซาวด์ หรือพลังงานเสียงเข้ามาช่วย ทำให้ก้อนไขมันสลายเป็นของเหลว จากนั้นแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือที่เป็นท่อเล็กๆเจาะเข้าไปดูดไขมันเหลวออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่ทำลายเนื้อเยื่อแบบการดูดไขมันสมัยก่อน ซึ่งใช้เครื่องมือที่มีแรงดันสูง หลัก การของเทคโนโลยีตัวนี้คือ ถ้าเรามีไขมันมาก ดูดออกมาก สัดส่วนก็จะลดลงตามไปด้วย การทำเวเซอร์ นอกจากจะช่วยปรับรูปร่างให้ดูเพรียวขึ้น ยังช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนยานของคุณแม่ ทั้งหลายด้วย.


ข้อดีของการดูดไขมัน
•ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดจะเรียบ ไม่ค่อยมีรอย
•เลือดออกน้อย
•เกิดรอยช้ำเขียวน้อย
•หายเร็ว
ผลเสียก็มีบ้าง ได้แก่มีแผลจากการเจาะดูด มีการเสียเลือดบ้างระหว่างดูด อาจมีอาการฟกช้ำดำเขียวอยู่ช่วงหนึ่ง และที่สำคัญคือการดูดไขมัน ที่ไม่สม่ำเสมออาจจะไม่ค่อยชำนาญ หรือผิวหนังไม่หดรัดตัวลงไปอย่างที่ต้องการเนื่องจากไม่ตึง (แก่หรือหนังหย่อน) ทำให้เกิดเป็นคลื่น ๆ ที่ผิวได้มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ อีกอย่างคือต้องเสียสตางค์ ราคาหลายพันจนถึงหมื่นขึ้น





คุยกันวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553



บทความของรุ่นพี่ปี 3ค่ะ

เทคโนโลยีสารสนเทศ 3G กับความคิดเห็นของพี่บอล
3G ก้าวกระโดนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ในสมัยปัจจุบันนี้3Gมีบทบาทมากในการสื่อสารกัน ในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร
มีการพัฒนาที่กว้างไกลมากขึ้นกว่าในสมัยอดีต มีความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ในการสื่อสารกัน เพืื่อนำมาใช้ในอนาคตในการทำ
งานประกอบอาชีพ ในการทำธุรกิจ3Gเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะนำมาทำธุรกิจได้ 3Gมันมีจุดเด่นของตัวมันเองยุแล้วและยังมีการพัฒนาอยู่ตลอด
เวลา สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้รวดเร็ว
เป็นความคิดด้านอาชีพในอนาคตเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นศาสตร์แห่งอนาคตมีการพัฒนาด้านสิ่งต่างๆหรือระบบต่างๆก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีอยู่มากเราต้องมีการปรับตัว
เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาปรับใช่ในชีวิตประจำวัน
สำหรับการจัดการองความรู้
ในองกรณ์ทุกองกรณ์ต้องมี การจัดการความรู้ในด้านต่างๆ เช่น ด้านเทคโนโลยี ด้านการบริหารงาน ฯลฯ การบริหาควารมรู้หรือ
การจัดเก็บความรู้ให้เป็นระบบที่ดีสามารถที่จะทำให้องค์กรมีความเจริญไปอย่างรวดเร็ว และยังสามารถสร้างวัฒธรรมที่ดีที่เกี่ยวกับการจัดการ
องค์กรความรู้ให้เกิดขึ้นอยู่ในองค์กรอีกด้วย

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553